หัวข้อธรรมประเภทนี้ มีไว้สำหรับใช้เพ่ง
เพื่อให้เห็น ข้อเท็จจริงแห่งข้อความนั้น
แล้วเพ่งต่อไป เพื่อให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ขึ้นมาจริงๆ
จนจิตใจเปลี่ยนไป ตามข้อเท็จจริงนั้น
ในการที่จะทำให้เกิด ความสลดสังเวช ความไม่ประมาท
การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่พึงปราถนา
กวาดล้า่งความรู้สึก ที่ทำความรำคาญให้แก่ตน ให้หมดไปจากจิตใจ
เพื่อให้เกิดความสะอาด ความสว่างและความสงบ
โดยสมควรแก่การกระทำของตน
ความรู้ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเพ่งทำนองนี้ จะถูกต้อง
และมีประโยชน์กว่าที่เกิดจากการอ่านตะพึด
และยังเป็นการปฏิบัติกรรมฐานภาวนาชนิดหนึ่งอยู่ในตัว
ทั้งสมาธิและปัญญา ในระดับที่คนทั่วไปจะพึงทำได้
และพร้อมกันนั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว
ในขณะที่มีการสังวรระวัง บังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้น
ไม่มีโอกาสแก่การทุศีลแต่ประการใด

ภัทเทกรัตต์

สิ่งล่วงแล้ว  แล้วไป  อย่าใฝ่หา
ที่ไม่มา  ก็อย่าพึ่ง  คนึกหวัง
อันวันวาน  ผ่านพ้น  ไม่วนวัง
วันข้างหน้า  หรือก็ยัง  ไม่มาเลย

ผู้ใดเฟ้น  เห็นชัด  ปัจจุบัน
เรื่องนั่นนั้น  แจ่มกระจ่าง  อย่างเปิดเผย
ไม่แง่นง่อน   คลอนคลั่ง ดั่งเช่นเคย
รู้แล้วเลย  ยิ่งเร้า  ให้ก้าวไป

วันนี้เอง  เร่งกระทำ  ซึ่งหน้าที่
อันวันตาย  แม้พรุ่งนี้  ใครรู้ได้
เพราะไม่อาจ  บอกปัด  หรือผลัดไว้
ต่อความตาย  และมหา  เสนามัน

ผู้มีเพียร  เวียนเป็น  อยู่เช่นนี้
ทั้งทิพา  ราตรี  แข็งขยัน
นั่นแหละผู้  “ภัทเท-  กรัตต์” อัน

No comments: