หัวข้อธรรมประเภทนี้ มีไว้สำหรับใช้เพ่ง
เพื่อให้เห็น ข้อเท็จจริงแห่งข้อความนั้น
แล้วเพ่งต่อไป เพื่อให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ขึ้นมาจริงๆ
จนจิตใจเปลี่ยนไป ตามข้อเท็จจริงนั้น
ในการที่จะทำให้เกิด ความสลดสังเวช ความไม่ประมาท
การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่พึงปราถนา
กวาดล้า่งความรู้สึก ที่ทำความรำคาญให้แก่ตน ให้หมดไปจากจิตใจ
เพื่อให้เกิดความสะอาด ความสว่างและความสงบ
โดยสมควรแก่การกระทำของตน
ความรู้ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเพ่งทำนองนี้ จะถูกต้อง
และมีประโยชน์กว่าที่เกิดจากการอ่านตะพึด
และยังเป็นการปฏิบัติกรรมฐานภาวนาชนิดหนึ่งอยู่ในตัว
ทั้งสมาธิและปัญญา ในระดับที่คนทั่วไปจะพึงทำได้
และพร้อมกันนั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว
ในขณะที่มีการสังวรระวัง บังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้น
ไม่มีโอกาสแก่การทุศีลแต่ประการใด

เต่าหินตาบอด

"โอ้! เต่าเอ๋ย ขอถาม ความสักอย่าง
ดูท่าทาง ของเต่า เรานึกขำ
ตัวเป็นหิน ตาก็บอด ยอดเวรกรรม
มีพระธรรม อยู่บนหลัง ยังไม่รู้"

"มนุษย์เอ๋ย เราจะบอก กรอกหูเจ้า
ตัวเราเอง แหละคือธรรม ตำตาอยู่
ธรรมของเจ้า คือตำรา บ้าพอดู
ธรรมของตู คือตัวตู อยู่ที่ธรรม

ที่เป็นหิน หมายถึงเย็น อย่างนิพพาน
และประหาร อวิชชา ไยว่าขำ
ความหนวกบอด ยอดสงบ ลบล้างกรรม
เป็นความว่าง มีประจำ อยู่ร่ำไป

อันตำรา นั้นมิใช่ พระธรรมเลย
คิดดูเถิด คนเอ๋ย อย่าไถล
จะมีธรรม กันบ้าง ช่างกระไร
คว้าเอาไว้ แต่คัมภีร์ ดีเหลือเอย" ฯ

อยู่ให้เหมือนลิ้นงูในปากงู

นั่นลูกตา มองเห็น ไม่เป็นหมัน
เขาใช้มัน เล็งแล แก้ปัญหา
อยู่ในโลก อย่างไร ไม่ทรมาน์
พิจารณา ตรองไป ให้จงดี

อยู่ให้เหมือน ลิ้นงู ในปากงู
ไม่เคยถูก เขี้ยวงู อยู่สุขศรี
อยู่ในโลก ไม่เคยถูก เขี้ยวโลกีย์
เป็นเช่นนี้ อุปมา อย่าฟั่นเฟือน

คิดดูบ้าง นั่งได้ ในปากงู
ก็ไม่ถูก เขี้ยวงู อยู่เสมือน
นั่งในห้อง แสนสบาย ภายในเรือน
มีเค้าเงื่อน เหมือนพระ~ ภควันต์

อยู่ในโลก ไม่กระทบ โลกธรรม
อยู่เหนือกรรม เหนือทุกข์ เป็นสุขสันติ์
ใครมีตา รีบเคารพ นอบนบพลัน
รีบพากัน ทำตาม ยามนี้เอยฯ