หัวข้อธรรมประเภทนี้ มีไว้สำหรับใช้เพ่ง
เพื่อให้เห็น ข้อเท็จจริงแห่งข้อความนั้น
แล้วเพ่งต่อไป เพื่อให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ขึ้นมาจริงๆ
จนจิตใจเปลี่ยนไป ตามข้อเท็จจริงนั้น
ในการที่จะทำให้เกิด ความสลดสังเวช ความไม่ประมาท
การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่พึงปราถนา
กวาดล้า่งความรู้สึก ที่ทำความรำคาญให้แก่ตน ให้หมดไปจากจิตใจ
เพื่อให้เกิดความสะอาด ความสว่างและความสงบ
โดยสมควรแก่การกระทำของตน
ความรู้ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเพ่งทำนองนี้ จะถูกต้อง
และมีประโยชน์กว่าที่เกิดจากการอ่านตะพึด
และยังเป็นการปฏิบัติกรรมฐานภาวนาชนิดหนึ่งอยู่ในตัว
ทั้งสมาธิและปัญญา ในระดับที่คนทั่วไปจะพึงทำได้
และพร้อมกันนั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว
ในขณะที่มีการสังวรระวัง บังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้น
ไม่มีโอกาสแก่การทุศีลแต่ประการใด

อรหันต์

อรหันต์  นั้นคือถูก  ถึงที่สุด
ทางวิมุตติ  จากทุกข์  ทุกสาขา
ถึงความเต็ม  แห่งมนุษย์  สุดพรรณนา
ควรแก่การ  วันทา  ยิ่งกว่าใคร,

ท่านหักแล้ว  ซึ่งวง  แห่งวัฏฏ์วน
ไม่มีตน  เวียนว่าย  ในภพไหน
เหนือบุญ-บาป  ชั่ว-ดี  มีแต่ใจ
ที่ว่างไป  จากตัวกู  และของกู

จิตหลุดจาก  ทุกอย่าง  ที่เคยติด
ไม่มีพิษ  มีภัย  อะไรอยู่
เหนือความเกิด  ความตาย  ใคร่ครวญดู
จะได้รู้  พระนิพพพาน  เหมือนท่านแลฯ

ปุถุชน


หนาด้วยความ  เห็นแก่ตัว  มัวยึดมั่น
ว่าตัวฉัน  ของฉัน  มัวมั่นหมาย
เป็นตัวตน  นอกใน  ใจหรือกาย
ตั้งแต่เกิด  จนตาย  ไว้เป็นตัว

ด้วยอำนาจ  อวิชชา  ดังตาบอด
เกิดขึ้นสอด  ไปทุกกาล  สถานทั่ว
ต้องหลงรัก  หลงโศก  เกิดโรคกลัว
เป็นไฟคั่ว  ใจกาย  ให้ร้อนรน

อย่างนี้แล  เวียนว่าย  ในวัฏฏทุกข์
ไม่เยือกเย็น  เป็นสุข  สักเส้นขน
เห็นตัวทุกข์  ว่าเป็น  ตนของตน
นี่แหละหนา  ปุถุชน  คนหนาจริงฯ

เป็นเจ้าคุณ


เป็นเจ้าคุณ  เขาว่าบุญ  ใหญ่หลวงนัก
พากันปัก  ใจใคร่  ใฝ่ฝันหา
ฉันฉุกใจ  ในยุค  พระศาสดา
เป็นเจ้าคุณ  กันหรือหนา  ท่าไหนกัน

พัดใบตาล  ยังไม่มี  นี่พัดยศ
นิตยภัตต์  มีหมด  กระโถนขัน
สัญญาบัตร  ไตรประทาน  งานสำคัญ
ฉลองกัน  หรูหรา  จนบ้าใจฯ

เป็นพระเมือง


เป็นพระเมือง  เรื่องมาก  ด้วยอยากเด่น
ต้องเขม่น  กันไป  จนใหลหลง
ต้องแบกทรัพย์ แบกศักดิ์  แบกพรรคพงศ์
เพื่อการเมือง  เรื่องณรงค์  ด้วยจงใจ

งานใต้ดิน  ใต้น้ำ  ก็ทำเป็น
ถึงฆ่าเข่น  กันพินาศ  ไม่หวาดไหว
คอยแข่งกัน  มิให้ใคร  ดีกว่าใคร
ไม่เย็นใจ  เย็นตัว  มัวขึ้นลงฯ

เป็นพระป่า


เป็นพระป่า  สงบกว่า  เป็นพระเมือง
ไม่มีเรื่อง  แบกพรรค  แบกศักดิ์ศรี
ไม่ต้องสวม  หน้ากาก  ผู้มากดี
มันเกิดฟรี  ขึ้นมาเอง  เก่งในตัว

จะนั่งนอน  ยืนเดิน  ไม่เขินขัด
ไม่มีใคร  คอยวัด  ว่าดีชั่ว
ไม่มีเรื่อง  ยั่วเย้า  ให้เมามัว
จึงเย็นตัว  เย็นใจ  ไม่ขึ้นลงฯ

เป็นพระเถื่อน


เป็นพระเถื่อน  เหมือนนก  วิหคหงษ์
ย่อมบินตรง  ไปได้  ทิศไหนไหน
เป็นอิสระ  อยากจะผละ  สังคมใด
ก็ผละได้  ทันใจ  ไม่อัดแอฯ

เอ็นดูฉัน  ขอให้ฉัน  เป็นพระเถื่อน
มีหมู่ไม้  เป็นเพื่อน  ทุกกระแส
มดแมลง  แสดงธรรม  อยู่จำเจ
ไพเราะแท้  ไม่มีเบื่อ  เหลือกล่าวเอยฯ

เป็นพระบ้าน


เป็นพระบ้าน  นั้นเห็นว่า  ภาระมาก
ต้องเป็นครก  เป็นสาก  กันเต็มที่
หนอนสังคม  มีมา  ทั้งตาปี
ช่างเหลือที่  จะเป่าปัด  ขจัดมัน

ฉันทนเป็น  พระบ้าน  มานานแล้ว
ถ้าคิดไป  ใจแป้ว  ไม่สุขสันติ์
มีแต่งาน  เตี้ยต่ำ,  ทำตะบัน
ก็ไม่เห็น  มีวัน  จะหมดไปฯ

เป็นหลวงตา


เป็นหลวงตา  สนุกกว่า  เป็นเจ้าคุณ
เหมือนความว่าง  ดีกว่าบุญ  เป็นไหนๆ
ไม่ปรุงแต่ง  สังขาร  ประการใด
ล้วนเป็นไป  สงบเย็น  เป็นนิพพาน

บุญเป็นเรื่อง  สวยงาม  กิน-กาม-เกียรติ
แต่ไม่มี  ใครเกลียด  ทุกสถาน
ส่วนความว่าง  ว่างเสียจน  คนกลัวลาน
เขาเกลียดกัน  ขันจ้าน  เป็นหลวงตาฯ

อริยชน


อริยะ  แปลว่าละ  จากข้าศึก
ไม่จมลึก  อยู่ในโลก  โศกสลาย
จนไม่มี  ข้าศึกใหญ่  ทางใจกาย
เพราะจางคลาย  คือวิโยค  เป็นโลกเย็น

เป็นปุถุชน  กันทำไม  ให้นานเล่า
จะตายเปล่า  ไปทั้งชาติ  ฉลาดเห็น
มันมีทาง  ชนะทุกข์  ทุกประเด็น
อย่ามัวเป็น  ปู่โสม  เรื่องโคมลอย

ทิฏฐิว่า "ตัวกู"  และ  "ของกู"
มุ่งมล้าง  มันอยู่  อย่าท้อถอย
กิเลสหลาย  เริ่มมลาย  ไม่รัดร้อย
นี้คือรอย  อริยา  รีบหาเทอญฯ

กัลยาณชน


กัลยาณชน นั้นละได้ ในส่วนผิด
มายึดติด มากมาย ฝ่ายกุศล
หมายมั่นเห็น ว่าเป็น ตนของตน
เท่ากันกับ ปุถุชน “ยึดตัวกู”

แม้ความยึด จะเท่ากัน แต่มันแปลก
มันเกิดแยก ทางกัน ดูขันอยู่
ข้างหนึ่งยึด ความทราม กามเชิดชู
ข้างหนึ่งยึด ความหรู กุศลงาม

ปุถุชน เคยหนาทึบ ด้วยฝ้าตา
ครั้งนานมา เริ่มเห็น รัตนะสาม
คือพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ตาม
ความเป็นจริง ใจเกิดงาม นามกัลยาณ์ฯ

ชาวบ้าน-ชาววัด

อันชาวบ้าน  ทำงาน  เพื่อกามเกียรติ
จึงเกิดความ  ตึงเครียต  จนสั่นเสียว
ส่วนชาววัด  มุ่งขจัด  ไปท่าเดียว
มิให้เกี่ยว  เกียรติกาม  มุ่งงามธรรม

จีงเกิดมี  เครื่องวัด  วัดชาวบ้าน
ด้วย “เงิน” “งาน” “อดอยาก” หรือ “อิ่มหนำ”?
ส่วนเครื่องวัด  ชาววัด,  วัดกิจกรรม
ว่าเขาทำ  ให้ว่างได้  เท่าไรแล;

ถ้าชาววัด  ฮึดฮัด  มุ่งกามเกียรติ
มันน่าเกลียด  แสนกล  คนตอแหล
ถ้าชาวบ้าน  เกียจคร้าน  งานเชือนแช
ก็มีแต่  ทุกข์ทน  หม่นหมองไป;

จึงขอให้  ชาวบ้าน  เป็นชาวบ้าน
ผสมผสาน  เกียรติกาม  ตามวิสัย
ให้ชาววัด  เป็นชาววัด  ขจัดไกล
เพื่อพ้นภัย  เกียรติ กาม  งามนักเอยฯ