หัวข้อธรรมประเภทนี้ มีไว้สำหรับใช้เพ่ง
เพื่อให้เห็น ข้อเท็จจริงแห่งข้อความนั้น
แล้วเพ่งต่อไป เพื่อให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ขึ้นมาจริงๆ
จนจิตใจเปลี่ยนไป ตามข้อเท็จจริงนั้น
ในการที่จะทำให้เกิด ความสลดสังเวช ความไม่ประมาท
การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่พึงปราถนา
กวาดล้า่งความรู้สึก ที่ทำความรำคาญให้แก่ตน ให้หมดไปจากจิตใจ
เพื่อให้เกิดความสะอาด ความสว่างและความสงบ
โดยสมควรแก่การกระทำของตน
ความรู้ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเพ่งทำนองนี้ จะถูกต้อง
และมีประโยชน์กว่าที่เกิดจากการอ่านตะพึด
และยังเป็นการปฏิบัติกรรมฐานภาวนาชนิดหนึ่งอยู่ในตัว
ทั้งสมาธิและปัญญา ในระดับที่คนทั่วไปจะพึงทำได้
และพร้อมกันนั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว
ในขณะที่มีการสังวรระวัง บังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้น
ไม่มีโอกาสแก่การทุศีลแต่ประการใด

ใครอยู่ระดับไหน?

ตอนแรกๆ  เด็กๆ  มันก็อยากดี
ล่วงมาไม่กี่ปีก็กลาย  เป็นอยากดัง
ใครตักเตือนก็ไม่ฟัง  มันอยากเด่น
ไม่แคร์ใครจะเขม่น  มันอยากโด่ง
เริ่มรู้จักคดโกง  มันอยากดื้อ
ต่อมาไม่กี่มื้อ  มันอยากโดด
พระเจ้าไม่โปรด  มันต้องอยากดับ

มีมาร-ไม่มีมาร

มารไม่มี  บารมี  ยิ่งไม่แก่
จะมีแต่  ถอยถด  หมดความหมาย
ไม่มีพลัง  สร้างวิบาก  ไว้มากมาย
หรือสอบไล่  ให้เรา  เข้าใจตัวฯ

มารยิ่งมี  บารมี  ยิ่งแก่กล้า
ยิ่งรุดหน้า  สามารถ  ในธรรมทั่ว
สร้างวิบาก  ได้มากมาย  ในเนียนัว
ให้ดอกบัว  เบ่งบาน  สะท้านสะเทือนฯ

แล้วประหัต  ประหารมารร้าย  ให้ตายเตียน
ได้แนบเนียน  ไม่มี  อะไรเหมือน
เมื่อมารมี  ก็เหมือนมาร  มาตักเตือน
ให้พบเงื่อน  งำกล้า  ฆ่ามารเองฯ

มัวแต่สร้างมาร

มารจะมี  เมื่ออยากดี  หรืออยากได้
แม้ความตาย  ก็ยังมี  พิลึกเหลือ
เพราะความยึด  แห่งตัวฉัน  มันเหลือเฟือ
ไม่มีเรื้อ  เรื่องความอยาก  มากประการ

ถ้าไม่อยาก  ได้อะไร  เป็นอะไร
มารจะมี  ได้ไฉน  ลองกล่าวขาน
อย่าอยากอะไร  ที่เป็นไป  ด้วยอัญญาณ
จะไม่เกิด  มีมาร  ขึ้นมาเลย

คิดพูดทำ  ทุกอย่าง  ด้วยปัญญา
ไม่ต้องมี  ตัณหา  หนาท่านเอ๋ย
อย่ามีอยาก  จะเย็นดี  กว่าที่เคย
มารไหนเว้ย  จะเกิดได้  ไม่เห็นทางฯ

นายเหนือหัว

นายของตน  คนที่หนึ่ง  คือท้องปาก
ยามท่านอยาก  ท่านเรียกร้อง  ต้องรีบหา
มาป้อนท่าน  ให้ทัน  แก่เวลา
ท่านชื่อว่า  “นายกิน”  เก่งสิ้นดี

นายของตน  คนที่สอง  คือเนื้อหนัง
ท่านไม่ฟัง  เสียงใคร  ใฝ่เสียดสี
แต่ในเรื่อง  นุ่มเนื้อ  เหยื่อโลกีย์
ชื่อท่านมี  ว่า “นายกาม”  ตะกลามจริง

นายของตน  คนที่สาม  คือหูหัว
เฝ้ายกตัว  เรื่อยไป  คล้ายผีสิง
ทั้งยกหาง  แกว่งไกว  ไวกว่าลิง
มีชื่อพริ้ง  ว่า “นายเกียรติ”  ใครเกลียดเอยฯ

ความโง่ของปัญญา

ลูกอ่อน  กลืนสตางค์  ค้างติดคอ
นางแม่หล่อ  น้ำกรดตรง  ลงแก้ไข
ว่าละลาย  โลหะหมด  แล้วปลอดภัย
ผลอย่างไร  เชื่อว่าทาย  ได้ด้วยกัน

นี้แหละหนา  ปัญญา  มาพรวดพราด
เพราะสติ  มันขาด  ก็ผวนผัน
กลายเป็นโง่  ในปัญญา  ขึ้นมาพลัน
ถ้าสติ  มาทันควัน  นั้นปลอดภัย

ความโง่มี  ในปัญญา  ถ้าขาดสติ
มันอุตริ  ออกมา  อย่าสงสัย
ฆ่าเจ้าของ  ของมัน  ได้บรรลัย
มีสติไว้  หนอ, พวกที่  มีปัญญาฯ

บุญหรือพระนิพพาน, เชิญเลือก

ชรารุก  ชีพทุกวัน  จึ่งสั้นไป
หาไม่ได้  เครื่องต้านต่อ  ข้อนั้นหนา;
เมื่อเพ่งเห็น  ภัยร้าย  ในมรณา
รีบสถา-  ปนาบุญ  หนุนสุขไว้ฯ
(ของเทวดา)

ชรารุก  ชีพทุกวัน  จึ่งสั้นเป็น
หาให้เห็น  เครื่องต้านต่อ  ข้อนั้น; ให้
ผู้เพ่งเห็น  ภัยทราม  ในความตาย
จุ่งคืนคาย  เหยื่อล่อ  พอใจนิพพาน
(ของพระพุทธองค์)

ถ้าสตรีดื่มเหล้า

ถ้าสตรี  กินเหล่า  เข้าเรื่อง “บ้า”
ไม่รูว่า  กินทำไม  กินไปได้
หรืออยากเป็น  กินนรี  ที่ไวไฟ
ยิ้มละไม  อยู่เพราะเหล่า:  ผีเข้าทรง

ดัดจริต  ตามใคร  บอกไม่ถูก
เพราะปีศาจ  จูงจมูก  ให้ลุ่มหลง
เห็นผีเป็น  เทวดา  ดูน่างง
โลกก็ส่ง  ตามแต่  แม่ผีตวง

ยิ่งลูกผี  มีแต่  จะเมาใหญ่
มีอะไร  ก็ต้องเหล้า  เผ้ายึดหน่วง
พอขาดเหล้า  ร้อนเร่า  เสียเต็มทรวง
โลกทั้งปวง  เป็นโลกเหล้า  น่าเศร้าจริง

ถ้า “สตรี”  คำนี้มา  จาก “สตี”
ก็แปลว่า  “คนผู้มี  สติยิ่ง”
ไม่ควรไป  หลงเหล้า  เข้าเรื่องลิง
ควรจะหยิ่ง  ธรรมแท้  ของแม่เอยฯ