หัวข้อธรรมประเภทนี้ มีไว้สำหรับใช้เพ่ง
เพื่อให้เห็น ข้อเท็จจริงแห่งข้อความนั้น
แล้วเพ่งต่อไป เพื่อให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ขึ้นมาจริงๆ
จนจิตใจเปลี่ยนไป ตามข้อเท็จจริงนั้น
ในการที่จะทำให้เกิด ความสลดสังเวช ความไม่ประมาท
การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่พึงปราถนา
กวาดล้า่งความรู้สึก ที่ทำความรำคาญให้แก่ตน ให้หมดไปจากจิตใจ
เพื่อให้เกิดความสะอาด ความสว่างและความสงบ
โดยสมควรแก่การกระทำของตน
ความรู้ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเพ่งทำนองนี้ จะถูกต้อง
และมีประโยชน์กว่าที่เกิดจากการอ่านตะพึด
และยังเป็นการปฏิบัติกรรมฐานภาวนาชนิดหนึ่งอยู่ในตัว
ทั้งสมาธิและปัญญา ในระดับที่คนทั่วไปจะพึงทำได้
และพร้อมกันนั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว
ในขณะที่มีการสังวรระวัง บังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้น
ไม่มีโอกาสแก่การทุศีลแต่ประการใด

ปุถุชน


หนาด้วยความ  เห็นแก่ตัว  มัวยึดมั่น
ว่าตัวฉัน  ของฉัน  มัวมั่นหมาย
เป็นตัวตน  นอกใน  ใจหรือกาย
ตั้งแต่เกิด  จนตาย  ไว้เป็นตัว

ด้วยอำนาจ  อวิชชา  ดังตาบอด
เกิดขึ้นสอด  ไปทุกกาล  สถานทั่ว
ต้องหลงรัก  หลงโศก  เกิดโรคกลัว
เป็นไฟคั่ว  ใจกาย  ให้ร้อนรน

อย่างนี้แล  เวียนว่าย  ในวัฏฏทุกข์
ไม่เยือกเย็น  เป็นสุข  สักเส้นขน
เห็นตัวทุกข์  ว่าเป็น  ตนของตน
นี่แหละหนา  ปุถุชน  คนหนาจริงฯ

No comments: