หัวข้อธรรมประเภทนี้ มีไว้สำหรับใช้เพ่ง
เพื่อให้เห็น ข้อเท็จจริงแห่งข้อความนั้น
แล้วเพ่งต่อไป เพื่อให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ขึ้นมาจริงๆ
จนจิตใจเปลี่ยนไป ตามข้อเท็จจริงนั้น
ในการที่จะทำให้เกิด ความสลดสังเวช ความไม่ประมาท
การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่พึงปราถนา
กวาดล้า่งความรู้สึก ที่ทำความรำคาญให้แก่ตน ให้หมดไปจากจิตใจ
เพื่อให้เกิดความสะอาด ความสว่างและความสงบ
โดยสมควรแก่การกระทำของตน
ความรู้ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเพ่งทำนองนี้ จะถูกต้อง
และมีประโยชน์กว่าที่เกิดจากการอ่านตะพึด
และยังเป็นการปฏิบัติกรรมฐานภาวนาชนิดหนึ่งอยู่ในตัว
ทั้งสมาธิและปัญญา ในระดับที่คนทั่วไปจะพึงทำได้
และพร้อมกันนั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว
ในขณะที่มีการสังวรระวัง บังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้น
ไม่มีโอกาสแก่การทุศีลแต่ประการใด

มองฟ้าปะดิน

แรกมองฟ้า  ก็เห็นว่าง  อย่างเขาว่า
ไม่เห็นพวก  เทวดา  คลาสวรรค์
ยิ่งมองไป  ยิ่งว่างมา  สารพัน
จิตใจมั่น  ยิ่งเห็นว่าง  อย่างสุดใจ

กลับได้เห็น  สาระหนึ่ง  ซึ่งความว่าง
มอบให้อย่าง  แก่นสาร  ปานดินใหม่
เป็นแผ่นดิน  เย็นและหยุด  กว่าจุดใด
ทรงคุณใหญ่  เรียก  "อมตะ  มหานคร"

เป็นที่ตั้ง  เย็นสนิท  แห่งจิตว่าง
กิเลสสร้าง  ทุกข์หาย  ไร้โศกศร
เป็นแดนดิน  ที่คงมั่น  นิรันดร
นี่แลตอน  ที่มองฟ้า  แล้วปะดินฯ

No comments: