หัวข้อธรรมประเภทนี้ มีไว้สำหรับใช้เพ่ง
เพื่อให้เห็น ข้อเท็จจริงแห่งข้อความนั้น
แล้วเพ่งต่อไป เพื่อให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ขึ้นมาจริงๆ
จนจิตใจเปลี่ยนไป ตามข้อเท็จจริงนั้น
ในการที่จะทำให้เกิด ความสลดสังเวช ความไม่ประมาท
การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่พึงปราถนา
กวาดล้า่งความรู้สึก ที่ทำความรำคาญให้แก่ตน ให้หมดไปจากจิตใจ
เพื่อให้เกิดความสะอาด ความสว่างและความสงบ
โดยสมควรแก่การกระทำของตน
ความรู้ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเพ่งทำนองนี้ จะถูกต้อง
และมีประโยชน์กว่าที่เกิดจากการอ่านตะพึด
และยังเป็นการปฏิบัติกรรมฐานภาวนาชนิดหนึ่งอยู่ในตัว
ทั้งสมาธิและปัญญา ในระดับที่คนทั่วไปจะพึงทำได้
และพร้อมกันนั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว
ในขณะที่มีการสังวรระวัง บังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้น
ไม่มีโอกาสแก่การทุศีลแต่ประการใด

แม่น้ำคด น้ำไม่คด

แม่น้ำคด ส่วนน้ำ นั้นไม่คด
ไม่แกล้งปด ดูให้ดี มีเหตุผล
กายกับใจ ไม่ลามก ไม่วกวน
แต่กิเลส แสนกล นั้นเหลือคด

จิตล้วนล้วน นั้นเป็น ประภัสสร
กิเลสจร ครอบงำ ทำยุ่งหมด
กิเลสเปรียบ ลำน้ำ ที่เลี้ยวลด
จิตเปรียบน้ำ ตามกฏ ไม่คดงอ

อันจิตว่าง มีได้ ในกายวุ่น
ในน้ำขุ่น มีน้ำใส ไม่หลอกหนอ
ในสงสาร มีนิพพาน อยู่มากพอ
แต่ละข้อ งวยงง ชวนสงกา

พระตรัสให้ ตัดป่า อย่าตัดไม้
ไม่เข้าใจ ตัดได้ อย่างไรหนา
รู้แยกน้ำ จากแม่น้ำ ตามว่ามา
จึงนับว่า ผู้ฉลาด สามารถเอยฯ

No comments: