หัวข้อธรรมประเภทนี้ มีไว้สำหรับใช้เพ่ง
เพื่อให้เห็น ข้อเท็จจริงแห่งข้อความนั้น
แล้วเพ่งต่อไป เพื่อให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ขึ้นมาจริงๆ
จนจิตใจเปลี่ยนไป ตามข้อเท็จจริงนั้น
ในการที่จะทำให้เกิด ความสลดสังเวช ความไม่ประมาท
การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่พึงปราถนา
กวาดล้า่งความรู้สึก ที่ทำความรำคาญให้แก่ตน ให้หมดไปจากจิตใจ
เพื่อให้เกิดความสะอาด ความสว่างและความสงบ
โดยสมควรแก่การกระทำของตน
ความรู้ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเพ่งทำนองนี้ จะถูกต้อง
และมีประโยชน์กว่าที่เกิดจากการอ่านตะพึด
และยังเป็นการปฏิบัติกรรมฐานภาวนาชนิดหนึ่งอยู่ในตัว
ทั้งสมาธิและปัญญา ในระดับที่คนทั่วไปจะพึงทำได้
และพร้อมกันนั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว
ในขณะที่มีการสังวรระวัง บังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้น
ไม่มีโอกาสแก่การทุศีลแต่ประการใด

ได้ดีเพราะถูกด่า

ฉันมีดี  เพราะถูกด่า  น่าหัวไหม
ยิ่งดีใจ  เพราะถูกด่า  ดูน่าหัว
ใครจะด่า  สักเท่าไร  ไม่เคยกลัว
เรื่องจะชั่ว  อย่างเขาด่า  นั้นอย่าเกรง

ใครมีดี  คนด็คิด  ริษยา
หาแง่ด่า  กันโขมง  ล้วนโฉงเฉง
เมื่อยปากเข้า  ปากก็มุบ  หุบปากเอง
ยิ่งครื้นเครง  คือฉันท้า  ให้ด่าฟรี

ฉันเป็นคน  ได้ดี  เพราะคำด่า
กลายเป็นสิ่ง  นำมา  ซึ่งศักดิ์ศรี
ด่าเท่าไร  ก็เห็นไม่  จริงสักที
เลยได้ดี  เพราะถูกด่า  น่าหัวครันฯ

No comments: