หัวข้อธรรมประเภทนี้ มีไว้สำหรับใช้เพ่ง
เพื่อให้เห็น ข้อเท็จจริงแห่งข้อความนั้น
แล้วเพ่งต่อไป เพื่อให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ขึ้นมาจริงๆ
จนจิตใจเปลี่ยนไป ตามข้อเท็จจริงนั้น
ในการที่จะทำให้เกิด ความสลดสังเวช ความไม่ประมาท
การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่พึงปราถนา
กวาดล้า่งความรู้สึก ที่ทำความรำคาญให้แก่ตน ให้หมดไปจากจิตใจ
เพื่อให้เกิดความสะอาด ความสว่างและความสงบ
โดยสมควรแก่การกระทำของตน
ความรู้ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเพ่งทำนองนี้ จะถูกต้อง
และมีประโยชน์กว่าที่เกิดจากการอ่านตะพึด
และยังเป็นการปฏิบัติกรรมฐานภาวนาชนิดหนึ่งอยู่ในตัว
ทั้งสมาธิและปัญญา ในระดับที่คนทั่วไปจะพึงทำได้
และพร้อมกันนั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว
ในขณะที่มีการสังวรระวัง บังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้น
ไม่มีโอกาสแก่การทุศีลแต่ประการใด

ศึกษากันเท่าไร?

โลกยุคนี้  มีศึกษา  กันท่าไหน
ยุวชน  รุ่นใหม่  ได้คลุ้มคลั่ง
บ้างติดยา  เสพติด  เป็นติดตัง
บ้างก็ฝัง  หัวสุม  ลุ่มหลงกาม

บ้างดูหมิ่น  พ่อแม่  ไม่มีคุณ
บ้างก็เห็น  เรื่องบุญ  เป็นเรื่องพล่าม
บ้างลุ่มหลง love free เป็นดีงาม
บ้างประณาม  ศาสนา  ว่าบ้าบอ

บ้างไปเป็น  ฮิ้ปปี้  มีหลายชนิด
บ้างทวงอิส  -ระพ้น  จนเหลือขอ
บ้างที่มี  ดีกรีีมาก  โฮกฮากพอ
โลกเราหนอ  ให้ศึกษา  กันเท่าไรฯ

No comments: