หัวข้อธรรมประเภทนี้ มีไว้สำหรับใช้เพ่ง
เพื่อให้เห็น ข้อเท็จจริงแห่งข้อความนั้น
แล้วเพ่งต่อไป เพื่อให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ขึ้นมาจริงๆ
จนจิตใจเปลี่ยนไป ตามข้อเท็จจริงนั้น
ในการที่จะทำให้เกิด ความสลดสังเวช ความไม่ประมาท
การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่พึงปราถนา
กวาดล้า่งความรู้สึก ที่ทำความรำคาญให้แก่ตน ให้หมดไปจากจิตใจ
เพื่อให้เกิดความสะอาด ความสว่างและความสงบ
โดยสมควรแก่การกระทำของตน
ความรู้ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเพ่งทำนองนี้ จะถูกต้อง
และมีประโยชน์กว่าที่เกิดจากการอ่านตะพึด
และยังเป็นการปฏิบัติกรรมฐานภาวนาชนิดหนึ่งอยู่ในตัว
ทั้งสมาธิและปัญญา ในระดับที่คนทั่วไปจะพึงทำได้
และพร้อมกันนั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว
ในขณะที่มีการสังวรระวัง บังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้น
ไม่มีโอกาสแก่การทุศีลแต่ประการใด

สนทนากับพระเจ้า

บางเวลา  สนทนา  กับพระเจ้า
ท่านคอยเฝ้า  ดูโลก  อันโยกไหว
ด้วยขันติ  เมตตา  ปรานีไป
เท่าไรเท่าไร  สัตว์โลก  ยังโยกโคลง

เพราะเมาจัด  ด้วยวัต-  ถุนิยม
เกิดระทม  ทุกข์ร้าย  กว่าตายโหง
ตายทั้งเป็น  เหมือนว่าเล่น  ทุกชั่วโมง
ยิ่งกว่าตาย  ใส่โลง  ซึ่งครั้งเดียว

ทำอย่างไร  ก็ยังไม่  มองเห็นทาง
จะเลิกร้าง  หมดสิ่ง  น่าหวาดเสียว
เมื่อศีลธรรม  กลับผัน  มาทันเทียว
โลกจะเกี่ยว  ก่อสุข  ยุคศรีอาริย์ฯ

No comments: