หัวข้อธรรมประเภทนี้ มีไว้สำหรับใช้เพ่ง
เพื่อให้เห็น ข้อเท็จจริงแห่งข้อความนั้น
แล้วเพ่งต่อไป เพื่อให้เกิดความรู้สึกเช่นนั้น ขึ้นมาจริงๆ
จนจิตใจเปลี่ยนไป ตามข้อเท็จจริงนั้น
ในการที่จะทำให้เกิด ความสลดสังเวช ความไม่ประมาท
การเปลี่ยนนิสัยที่ไม่พึงปราถนา
กวาดล้า่งความรู้สึก ที่ทำความรำคาญให้แก่ตน ให้หมดไปจากจิตใจ
เพื่อให้เกิดความสะอาด ความสว่างและความสงบ
โดยสมควรแก่การกระทำของตน
ความรู้ความเข้าใจ ที่เกิดจากการเพ่งทำนองนี้ จะถูกต้อง
และมีประโยชน์กว่าที่เกิดจากการอ่านตะพึด
และยังเป็นการปฏิบัติกรรมฐานภาวนาชนิดหนึ่งอยู่ในตัว
ทั้งสมาธิและปัญญา ในระดับที่คนทั่วไปจะพึงทำได้
และพร้อมกันนั้นก็เป็นศีลอยู่แล้ว
ในขณะที่มีการสังวรระวัง บังคับตัวเองให้ทำเช่นนั้น
ไม่มีโอกาสแก่การทุศีลแต่ประการใด

สู้กับหมอน

หนุนหมอนต่ำ  นอนหงาย  สบายหนอ
ถ้าหมอนสูง  นอนหงาย  กลัวตายโหง
คือคอหัก  เผาะออกไป  ได้ใส่โลง
แต่มันโล่ง  สบายเหลือ  เมื่อนอนตะแคง

พ่อคุณเอ๋ย  จะต้องมี  สองสามหมอน
ช่างหลอกหลอน  ไปได้  หลายแขนง
แก้ลำมัน  อย่ามีมัน  ให้เหนื่อยแรง
นอนตะแคง  หรือนอนหงาย  ใช้แขนรอง

นอนแต่น้อย ไม่ตะบอย  หาความสุข
จากการนอน ไม่อยากจะลุก: เป็นโรคสมอง
ที่กิเลส  ชักนำใจ  ให้ลำพอง
จนเราต้อง  มีอะไร  ให้เกินควรฯ

No comments: